ปกติผมจะมีการท่องเที่ยวในต่างประเทศ เพื่อให้รางวัลกับชีวิต และเปิดโลกทัศน์เพื่อดูว่าประเทศอื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง โดยการเลือกประเทศที่จะไปเที่ยวก็จะเลือกประเทศที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของประวัติศาตร์ที่เป็นมาอย่างยาวนาน หรือมีทัศนียภาพที่สวยแปลกตาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา
มองโกเลีย ก็เคยรู้จักชื่อประเทศนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยเรียนหนังสือ ซึ่งจะเป็นเรื่องของเจงกิสข่าน และมองโกเลีย ประเทศที่เคยเป็นมหาอำนาจเก่าแก่เมื่อราว ๆ 800 ปีก่อน และได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรที่มีเนื้อที่ติดต่อกันที่กว้างใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มวลมนุษย์ชาติ จากฝั่งตะวันออกคาบสมุทรเกาหลี…ยาวเหยียด ผ่านเอเซียกลาง ไปยันประเทศออสเตรียทางตะวันตก ทางด้านล่างก็กินพื้นที่จีนทั้งประเทศลงมาถึงพุกามของเก่า และจรดเวียดนาม..
ปัจจุบันประเทศมองโกเลียเป็น Land Lock คือไม่มีทางออกสู่ทะเล ถูกล้อมรอบด้วยประเทศอื่น ๆ 2 ประเทศ ทางตอนใต้ติดกับประเทศจีน ทางตอนเหนือติดกับรัสเซีย
ด้วยสาเหตุของความยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ และประเทศนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในการท่องเที่ยวสำหรับคนไทยมากนัก เลยคิดว่า น่าจะลองไปเที่ยวดูบ้างว่า คนมองโกลเลีย และทัศนียภาพของประเทศนี้เป็นอย่างไร
เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะไปเที่ยวมองโกเลียแล้ว ก็เริ่มค้นหาข้อมูลจาก Website ต่าง ๆ ผ่าน Google , Trip advisor ว่ามีที่ท่องเที่ยวอะไรบ้างที่นักท่องเที่ยวนิยมไป และการเดินทาง ที่พักและ ค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้เป็นจำนวนเงินเท่าไร โดยวางแผนว่าจะไปเที่ยวในช่วงต้น เดือนตุลาคม 2560 ซึ่งใช้เวลาเตรียมตัวในการเริ่มต้นหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ ในเดือน มิถุนายน หรือประมาณ 5 เดือนล่วงหน้า

จากการหาข้อมูลก็พอทราบว่า มองโกเลียจะมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว คือช่วงระหว่าง มิถุนายน-กันยายน ซึ่งเป็นหน้าร้อนของที่โน่นอากาศไม่หนาวมาก ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคม ที่จะไปอากาศจะเริ่มหนาว โดยเฉพาะครึ่งเดือนหลังของตุลาคมอุณหภูมิจะเริ่มติดลบ และการบริการที่พักในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในช่วง low season จะมีค่อนข้างน้อย
และการเดินทางท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมทำผ่านผู้ประกอบการกิจการท่องเที่ยวท้องถิ่นของมองโกเลีย การเดินทางรถโดยสารสาธารณะทำได้ค่อนข้างยาก ประกอบกับคนที่โน่นใช้ภาษาอังกฤษได้น้อยมาก โดยเฉพาะนอกเขตเมืองหลวงของมองโกเลีย (อูลานบาร์ตอ)

หาข้อมูลอยู่ราว ๆ 2 เดือน ก็เริ่มได้ข้อสรุปได้เส้นทางท่องเที่ยวในมองโกเลีย โดยเลือกว่าจะเดินทางลงภาคใต้ในเขตทะเลทรายโกบี ที่ไม่หนาวมากจนเกินในช่วงเวลาต้นเดือนตุลาคม ซึ่งอุณหภูมิในช่วงนั้น กลางวันจะอยู่ที่ 7-8 องศา แต่ในช่วงกลางคืนบางจะลงไปต่ำกว่า 0 องศา แต่ก็คิดว่าน่าจะพอทนได้ โดยระยะเวลาในการท่องเที่ยวทั้งหมด 9 วัน ไม่รวมวันเดินทางไปกลับจากไทย
การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อความสะดวกในการแวะพักหรือเยี่ยมชมตามสถานที่ต่าง ๆ เลยคิดว่าน่าจะเช่ารถขับเองดีกว่า ซึ่งมีทางเลือกว่าจะเช่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์ ซึ่งจากการศึกษาและประเมินสภาพแวดล้อมและหนทางในมองโกเลีย ในสถานที่ ๆ จะไปส่วนใหญ่เป็นทางดิน ไม่ได้เป็นทางลาดยางมะตอยเหมือนบ้านเรา และในเขตห่างไกลเมือง มีผู้คนอาศัยอยู่น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นคนเร่ร่อน เกรงว่าหากเช่ารถยนต์ หากเกิดปัญหารถเสียจะเป็นภาระ เลยตัดสินใจว่า เช่ามอร์เตอร์ไซต์ขับเองน่าจะง่ายกว่า การเช่าก็ค้นหาในผู้บริการให้เช่าใน google ราคาที่ได้มา คือ 30 USD ต่อวัน ซึ่งเช่าไปทั้งหมด 9 วัน

ที่พักในเมืองใหญ่ก็พอจะหาโรงแรมได้ ส่วนนอกเมืองเนื่องจากเป็น Low Season แคมป์รองรับนักท่องเที่ยว ต่าง ๆ ก็หยุดทำการ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวน้อยมาก ทำให้ต้องเตรียมเต้นท์ และถุงนอน รวมถึงอาหารแห้งไปด้วย เพื่อความสะดวกในการหยุดพักและการเดินทางที่ยืดหยุ่น
การเดินทางจากไทย … ไทยไม่มีสายการบินบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปอูลานบาร์ตอ ต้องไปต่อเครื่องที่ฮ่องกงก่อน และต่อจากฮ่องกงอีกราว ๆ 5 ชม. ก็ถึงอูลานบาร์ตอ ส่วน VISA นั้น คนไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอ VISA ล่วงหน้า


เส้นทางการท่องเที่ยวในมองโกเลียก็เริ่มต้นที่ อูลานบาร์ตอ เดินทางลงมาทางทิศใต้ เข้าเขตทะเลทรายโกบี แวะไปตามสถานท่ท่องเที่ยว โดยค้นหาข้อมูลมาล่วงหน้าว่า ทางที่ผ่านไป จะต้องแวะอะไรบ้าง โดยในช่วงทะเลทรายโกบี จะมีเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของมองโกเลียชื่อเมืองดาลันซัดกัด ห่างจากอูลานบาร์ตอประมาณ 700 กม. ซึ่งขับมอตอร์ไซต์ ใช้เวลาประมาณ 3 วัน และขากลับก็กลับขึ้นอีกทางเพื่อจะได้เป็นการเดินทางแบบวงกลม ไม่ย้อนกลับทางเดิม ขึ้นไปทางเมืองใหญ่ทางตอนกลางของประเทศชื่อเมืองอาวาเคีย และวกกลับเข้าอูลานบอร์ตอทางทิศตะวันออก

การเดินทางท่องเที่ยวเนื่องจากพื้นที่ห่างไกล ไม่มีสัญญาณ 3G/4G ก็ต้องใช้ Offline GPS MAPS.ME ในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งก็ถือว่าแผนที่และพิกัดต่าง ๆ ค่อนข้างตรง
เรื่องของอาหาร เนื่องจากนอนเต้นท์ในระหว่างการเดินทาง อาหารที่กินในแต่ละมื้อก็เป็นอาหารสำเร็จรูป เช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมปัง อาหารกระป๋อง และที่สำคัญที่สุดคือ น้ำเปล่า ทุกครั้งที่ถึงเมืองหรือหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกล จะต้องทำการซื้อน้ำเปล่าไว้อย่างน้อย 3-4 ลิตร เพราะป้องกันเหตุไม่คาดคิดในกรณี เดินทางในพื้นที่ห่างไกลในทะเลยทราย
คนมองโกเลียรวม ๆ ค่อนข้างจะเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวพอสมควร แต่เนื่องจากมองโกเลียเพิ่งเปิดประเทศ สาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับการท่องเที่ยวอาจจะยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ แต่ในอนาคตคิดว่าคงจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจะเริ่มมีคนเข้ามาท่องเที่ยวในจำนวนที่เพิ่มขึ้น
ที่มา: อินทาเนีย ฉบับที่ 1 ปี พ.ศ. 2562 คอลัมน์ เที่ยวกับอินทาเนีย (Journey & Yummy) โดย เสวี ใจซื่อตรง วศ.35