โครงข่ายการเดินทางในพื้นที่กรุงเทพฯ ถือเป็นหัวใจสำคัญของประชาชน เนื่องจากมีการใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก ทั้งรถส่วนตัวและขนส่งสาธารณะ หากมีโครงข่ายการเดินทางเชื่อมต่อที่ดีจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางให้แก่ประชาชนในแต่ละวันได้ กองบรรณาธิการวารสารอินทาเนีย มีโอกาสได้สัมภาษณ์ สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข วศ.2532 ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ถึงการบริหารจัดการการก่อสร้างโครงการทางด่วนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ว่ามีแนวคิดอย่างไรในการเลือกในแต่ละพื้นที่มาทำเป็นทางด่วนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
หน้าที่ความรับผิดชอบของการทางพิเศษฯ

สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข วศ.2532 ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2515 สังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างทางให้เป็นตัวเลือกในการเดินทางให้แก่ประชาชน ต่อมา พ.ศ. 2544 ได้ย้ายไปอยู่ในสังกัดกระทรวงคมนาคม หน้าที่หลักคือเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทำโครงสร้างพื้นฐานและบริการเก็บค่าผ่านทางเพื่อนำรายได้ไปพัฒนาประเทศ โครงการแรกที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้สร้างขึ้นคือทางด่วนสายบางนา-ท่าเรือ เปิดบริการครั้งแรกใน พ.ศ. 2524 เป็นทางด่วนสายเริ่มต้นให้แก่ประเทศไทย
สำหรับแผนงานมาสเตอร์แพลนของกระทรวงคมนาคมจะอยู่ภายใต้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะช่วยวางแผนงานให้แก่กระทรวงคมนาคมสำหรับโครงข่ายการเดินทางให้แก่กรุงเทพฯ ในแต่ละรูปแบบ ทั้งระบบราง เรือ ทางด่วนต่าง ๆ สำหรับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะเป็นหน่วยงานที่รับนโยบายมาจาก สจข. และทุกครั้งที่การทางพิเศษฯ ได้มีการศึกษาเส้นทางใหม่ ๆ ในกรุงเทพฯ จะต้องนำเรื่องเข้ากระทรวงคมนาคม และ สนข. เป็นหน่วยงานรับเรื่องทำหน้าที่ดูแลในส่วนนี้ เช่น ตัวอย่างโครงการที่ได้อนุมัติไปคือทางด่วนที่วิ่งจากรามอินทรา-อาจณรงค์ ไปจบที่จตุโชติ ได้ทำเรื่องต่อขยายไปลงที่ลำลูกกา คลอง 9 เพราะหากไม่สมเหตุสมผลทาง สนข. จะไม่ให้ผ่าน
ตัวอย่างโครงการทางด่วนดินแดง-ท่าเรือ เป็นโครงการที่ต้องการพัฒนาเรื่องโลจิสติกส์ส่งเสริมการขนส่งบริเวณท่าเรือ และมีการขยายโครงข่ายมาเรื่อย ๆ จากขั้น 1 บางนา-ท่าเรือ ไปขั้น 2 งามวงศ์วาน-มาถึงพญาไท และเลี้ยวซ้ายไปศรีนครินทร์ การขยายทางด่วนเป็นการต่อยอดจากโครงการแรก ๆ ที่เริ่มต้น ปัจจุบันพื้นที่ในกรุงเทพมหานครโครงข่ายทางด่วนค่อนข้างเต็มแล้ว สิ่งที่ทำได้คือขยายออกไปรอบนอก สำหรับการทางฯ จะทำในส่วนของทางด่วนวงแหวนมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เท่านั้น ถ้าระยะทางมากกว่านั้นจะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการโอเปอร์เรต สำหรับทางที่มีระยะทางยาวและค่าผ่านทางในราคาที่ถูกเป็นหน้าที่ของกรมทางหลวง เนื่องจากมอเตอร์เวย์จัดเก็บค่าผ่านทางจากประชาชนเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จึงมีต้นทุนการให้บริการที่ต่ำและไม่ได้มุ่งเน้นการแสวงหากำไรเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกัน การทางพิเศษแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ มีภารกิจสำคัญในการสร้างรายได้กลับคืนสู่ประเทศควบคู่ไปด้วย
จุดริเริ่มโครงการมาจากความต้องการของประชาชนเป็นหลัก
ปัจจุบันโครงการทางด่วนที่เกิดขึ้นมาจากความต้องการของประชาชนเป็นหลัก เช่น โครงการทางด่วนที่ภูเก็ต ซึ่งเริ่มต้นใน พ.ศ. 2553 เนื่องจากการเดินทางของประชาชนไม่มีความสะดวกสบาย ต้องเดินทางจากอำเภอกะทู้ไปยังป่าตอง โดยต้องขึ้นเขาและลงเขาในเส้นทางที่ค่อนข้างอันตราย มีโค้งหักศอกหลายจุด ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งและมีผู้เสียชีวิต การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจึงเห็นความสำคัญในเรื่องนี้และตัดสินใจเจาะอุโมงค์เพื่อก่อสร้างโครงการดังกล่าว ในช่วงนั้นเทศบาลมีงบประมาณไม่เพียงพอ จึงได้ส่งต่อโครงการให้แก่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ ต่อมาใน พ.ศ. 2556 รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง ใช้ระยะเวลา 8 ปีในการผลักดันโครงการ และรัฐบาลอนุมัติให้เริ่มการก่อสร้างใน พ.ศ. 2565 ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดการและทำประชาพิจารณ์
ต่อมา กระทรวงคมนาคมได้นำเสนออีกเส้นทางหนึ่ง จากกะทู้ไปยังสนามบินภูเก็ต ในตอนแรกกรมทางหลวงเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ได้มีการโอนโครงการมาให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากเห็นว่าโครงการทั้ง 2 ควรเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายเดียวกัน โครงการนี้ได้รับการโอนจากกรมทางหลวงใน พ.ศ. 2565 และในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการผลักดัน คาดว่าจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน พ.ศ. 2568 ใช้ระยะเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วโครงการลักษณะนี้มักใช้เวลาถึง 7-8 ปี
สำหรับโครงการกะทู้-สนามบินภูเก็ต นับเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี ขณะเดียวกันการจราจรในภูเก็ตค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะเส้นทางจากสนามบินภูเก็ตสู่หาดป่าตอง ซึ่งปัจจุบันต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมง หากโครงการนี้แล้วเสร็จ จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางลงเหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น
โครงการนี้มีแผนก่อสร้างอุโมงค์ความกว้างประมาณ 17 เมตร ใช้งบประมาณราว 8,000 ล้านบาท และงบประมาณสำหรับงานส่วนอื่น ๆ อีกประมาณ 3,000 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 11,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2572 ใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 4 ปี โดยเบื้องต้นประเมินค่าผ่านทางไว้ที่ประมาณ 15 บาทต่อเที่ยว ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการจัดทำประชาพิจารณ์ สำหรับอนาคตเรามีแพลนที่จะทำทางข้ามไปที่เกาะสมุย เดิมทีกรมทางหลวงชนบทเป็นผู้ดูแล การทำโครงสร้างข้ามทะเลเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ สร้างยาก มีมูลค่าในการก่อสร้างแพง ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำข้อเสนอและให้รัฐบาลช่วยพิจารณา
สำหรับโครงการที่มีแผนเปิดให้บริการภายในช่วงปลาย พ.ศ. 2568 ได้แก่ โครงการทางด่วนพระราม 3–ดาวคะนอง ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งรัดก่อสร้างเพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนดการ อย่างไรก็ตาม ระหว่างดำเนินการได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่งผลให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงักชั่วคราว โดยการทางฯ ได้สั่งระงับการทำงานทันที พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ยังคงตั้งเป้าให้โครงการเปิดใช้งานได้ตามแผนภายใน พ.ศ. 2568 นอกจากนี้ ยังมีโครงการทางด่วนสายจตุโชติ–ลำลูกกา ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการประมูลคัดเลือกผู้รับเหมาเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มต้นการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่การทางฯ อีกทั้งโครงการทางด่วนสายเกษตร–นวมินทร์ ถือเป็นโครงการเร่งด่วนที่ต้องผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากจะมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาปัญหาการจราจรจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกเข้าสู่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ และช่วยลดความแออัดของการจราจรบนทางด่วนพระราม 9 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เส้นทางสู่ความปลอดภัยในการก่อสร้างและพัฒนาคมนาคม
ในกระบวนการเวนคืนพื้นที่เพื่อก่อสร้างทางด่วน จะดำเนินการในลักษณะแนวยาวตามแนวเส้นทาง โดยมุ่งเน้นการเวนคืนให้น้อยที่สุดตามข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่ได้จากการเวนคืนส่วนใหญ่มีลักษณะแคบและต่อเนื่องตามแนวทางด่วน จึงไม่สามารถนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้มากนัก ยกเว้นบางกรณีที่แนวทางด่วนพาดผ่านชุมชน ซึ่งพื้นที่ใต้ทางด่วนบริเวณดังกล่าวอาจสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่เพื่อกิจกรรมเชิงพาณิชย์ได้ในบางส่วน การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเช่าพื้นที่ใต้ทางด่วนที่มีศักยภาพเพื่อสร้างรายได้ อาทิ พื้นที่ใต้ทางด่วนถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านทางเข้าออก จึงไม่เอื้อต่อการพัฒนาในรูปแบบอื่น ทั้งนี้ ธุรกิจที่มีความเป็นไปได้และเหมาะสมกับพื้นที่ประเภทนี้คือ ธุรกิจลานจอดรถ ซึ่งในขณะนี้การทางฯ กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและประเมินความเป็นไปได้อย่างรอบด้าน
ในส่วนของกระบวนการสร้างรายได้ การทางฯ พิจารณาหลายแนวทางควบคู่กัน โดยแนวทางที่ถือว่ามีความโปร่งใสและประสิทธิภาพสูงสุดคือ การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) โดยรัฐลงทุนในส่วนของพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่เอกชนลงทุนในส่วนของการบริหารจัดการและการจัดเก็บรายได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยกระบวนการด้านกฎหมายของประเทศไทย การดำเนินโครงการรูปแบบ PPP ต้องผ่านขั้นตอนที่หลากหลายและใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำคัญที่การทางฯ กำลังพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและผลักดันโครงการไปสู่การปฏิบัติได้จริง
นอกจากนี้ยังมีโครงการให้แม่ค้าเข้าไปขายสินค้าบริเวณใต้ทางด่วนเพลินจิต โดยการจ้างเอกชนมาจัดเก็บรายได้ เป็นความภาคภูมิใจของการทางฯ ที่ทำร่วมกันกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กลุ่มประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ เป็นการใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์และสร้างรายได้ให้แก่การทางฯ ปีละ 4 ล้านบาท
สำหรับโครงการทางด่วนบ้านครัว เราตัดสินใจยกเลิก เนื่องจากพื้นที่มีการก่อสร้างหนาแน่น และหากเวนคืนแล้วไม่สามารถพัฒนาได้ภายใน 15 ปี เอกชนมีสิทธิขอคืนพื้นที่ ประกอบกับโครงการนี้ล่าช้ามานานกว่า 20 ปี ประชาชนเริ่มร้องขอซื้อคืน ทางเจ้าหน้าที่เดิมมีความพยายามรักษาพื้นที่ไว้ แต่ท้ายที่สุดต้องคืนให้ประชาชน พร้อมทั้งขอโทษที่ไม่นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้ ผมพยายามปรับ Mindset เจ้าหน้าที่ เพราะในฐานะข้าราชการ เราไม่มีสิทธิหวงพื้นที่เหล่านี้ โดยต้องคืนให้ประชาชนในราคาตามเดิม เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
การบริหารจัดการทางด่วนพระราม 2
สำหรับโครงการทางด่วนพระราม 2 ที่เกิดอุบัติเหตุ ต้องยอมรับว่า ในบางด้านประเทศไทยยังมีช่องว่างในการพัฒนาเรื่องระบบความปลอดภัย เมื่อเทียบกับบางประเทศที่มีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่า เช่น ประเทศญี่ปุ่น หากสามารถปรับปรุงและเพิ่มความเข้มงวดในด้านนี้ได้มากขึ้น ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ สำหรับการก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 ซึ่งมีระยะทางรวมกว่า 50 กิโลเมตร การทางพิเศษแห่งประเทศไทยรับผิดชอบตั้งแต่บริเวณสะพานทศมราชันจนถึงวงแหวนต่างระดับ โดยมีผู้รับเหมา 6 ราย ส่วนจากวงแหวนต่างระดับถึงอำเภอบ้านแพ้ว มีผู้รับเหมาอีกประมาณ 20 ราย ซึ่งการประสานงานกับผู้รับเหมาหลายรายในโครงการนี้จึงมีความซับซ้อนสูง
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการดำเนินงานโดยผู้รับเหมาในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2565 โดยมีชั่วโมงการทำงานรวมกว่า 1,300,000 ชั่วโมง โครงการนี้เป็นโครงการที่มีความท้าทายมาก เนื่องจากเป็นการสร้างทางด่วนในพื้นที่ที่มีโครงสร้างทางด่วนเดิม และไม่สามารถปิดถนนระหว่างการก่อสร้างได้ จึงมีความเสี่ยงสูง
การทางพิเศษฯ ได้คัดเลือกผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูงในการดำเนินงาน โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่มีอุปสรรคหลายประการ และเรากำลังพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความเข้าใจในส่วนนี้จากประชาชน
“เราได้พยายามอธิบายให้ประชาชนรับทราบและได้เดินทางไปเยี่ยมญาติของผู้ที่เสียชีวิต สะเทือนใจมาก ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของการทางฯ การพูดตรงไปตรงมาบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี ต้องขอโทษประชาชนที่พูดให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่เรามีเจตนาที่ดี อยากจะสร้างความเจริญให้แก่บ้านเมือง”
เตรียมความพร้อมสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้า
การเตรียมตัวเพื่อการทำงานในอนาคตนั้นไม่ใช่เพียงการพัฒนาในด้านความรู้ แต่ยังรวมถึงการพัฒนาทักษะการปรับตัวและการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้น การเริ่มต้นในเส้นทางอาชีพควรคำนึงถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านเทคนิค ซึ่งจะช่วยให้เรามีความมั่นคงในการตัดสินใจในอนาคต ทั้งในกรณีที่ต้องการสร้างธุรกิจสตาร์ตอัป หรือแม้กระทั่งการทำงานในภาครัฐ
ในกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การได้ทำงานในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ หรือร่วมงานกับบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญสูงจะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมทักษะทางเทคนิค แต่ยังสอนให้เราเข้าใจถึงแนวคิดที่ลึกซึ้งในการจัดการกับปัญหาและความท้าทายในชีวิตการทำงาน การมีโอกาสเรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จในสายงานเดียวกันจะช่วยให้เราพัฒนาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
อย่ากลัวที่จะเริ่มต้นจากการเผชิญกับความยากลำบาก เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นบทเรียนสำคัญที่จะสั่งสมให้เรามีความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย เมื่อเวลาผ่านไป ทุกการเรียนรู้จะสะท้อนให้เห็นในทักษะที่แข็งแกร่งและความสามารถในการตัดสินใจที่ดีขึ้นในอนาคต
การเตรียมตัวในวันนี้จะเป็นการปูทางสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้า ขอให้รุ่นน้องมุ่งมั่น และพร้อมที่จะเรียนรู้จากทุกประสบการณ์ที่เข้ามา เพราะการสร้างความรู้และประสบการณ์จะทำให้เรามีความพร้อมสำหรับทุกความท้าทายในอนาคตอย่างมั่นใจ
ที่มา: อินทาเนีย ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ. 2568 คอลัมน์ สัมภาษณ์พิเศษ โดย กองบรรณาธิการ