วศ.28

ESG ≠ CSR 2.0 แต่คือ DNA ของธุรกิจอนาคต ถ้าแค่ “ดี” มัน “พอ” โลกคงไม่วิกฤตขนาดนี้

ESG ≠ CSR 2.0 แต่คือ DNA ของธุรกิจอนาคต ถ้าแค่ “ดี” มัน “พอ” โลกคงไม่วิกฤตขนาดนี้

ลองคิดภาพผู้บริหารในห้องประชุมหรูที่พูดอย่างมั่นใจว่า เราทำ CSR ทุกปี แจกถุงยังชีพเป็นพันถุง ปลูกต้นไม้เกือบหมื่นต้น แต่ขณะเดียวกัน โรงงานของเขาปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำทุกคืน แรงงานถูกกดค่าแรงอย่างไร้ปรานี และการจัดซื้อจัดจ้างเต็มไปด้วยเครือญาติและผลประโยชน์แอบแฝง

ทำให้เป็น

ทำให้เป็น

เรามาถึงมิติสุดท้ายของ IDGs Inner Development Goals กันแล้วนะครับ ซึ่งจะบอกว่าเป็นมิติที่สำคัญที่สุดก็ไม่ผิดนัก เพราะเป็นการแปรทุกทักษะจาก 4 มิติก่อนหน้าให้เกิดผลออกมาเป็นรูปธรรมจริง ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์หรือสร้างความสำเร็จให้เราได้จริง เพราะจาก 4 มิติก่อนหน้าแม้เราจะเตรียมจิต

ร่วมมือให้เป็น

ร่วมมือให้เป็น

จากเป็นให้เป็น สู่คิดให้เป็น ถึงสัมพันธ์ให้เป็น คราวนี้เรามาถึงมิติที่ 4 ของ IDGs Inner Development Goals ที่ว่าด้วยเรื่องของความร่วมมือ ที่เราต้องรู้ว่าการจะได้รับความร่วมมือนั้นจำเป็นต้องมีทักษะใดบ้างถึงจะทำให้เรา “ร่วมมือเป็น”

คิด ให้เป็น

คิด ให้เป็น

หลังจากเราเป็นกันเป็นแล้ว คราวนี้ล่ะครับเราถึงจะมาเริ่ม “คิด” กัน นี่ไม่ใช่การเล่นคำนะครับ แต่เป็นความจริงแบบหญ้าปากคอก หรือความจริงที่เรามักอุปมาว่าเหมือนของอยู่ที่ปลายจมูก คือมันใกล้เสียจนละเลยไป ขั้นตอนของ IDGs นี่ก็เช่นกัน เรามักละเลยที่จะไปคิดเค้นค้นควานหาสารพัดไอเดียมาพัฒนาสร้างงานโดยละเลยไปว่า ก่อนจะเริ่มคิดได้นั้นเราต้องปรับภายในคือการเป็นตัวของเราให้มันถูกต้องเสียก่อน ซึ่งตอนนี้เราผ่านขั้นตอนนั้นกันมาแล้วกับ 5

วิศวกร กับภาษาอังกฤษ

วิศวกร กับภาษาอังกฤษ

การประชุมนี้มีชาวต่างชาติที่พูดภาษาไทยไม่ได้อยู่ด้วย 2 คน จึงใช้ภาษาอังกฤษในการประชุมเพียงภาษาเดียว ผมเดินตามพี่วิศวกรอาวุโสมาเข้าห้องประชุม แกนั่งลงผมก็นั่งข้างแก ไม่ทันสังเกตบุญมาวาสนาส่งโดยแท้ ทางซ้ายมือผมเป็นพ่อหนุ่มเบลเยียม นั่งติดกันเลย ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ที่ไหนได้ เคยเจอกันบ้างไหมครับ ฝรั่งช่างพูดช่างซัก ช่างถามน่ะครับ

Buddhist Ikigai

Buddhist Ikigai

PASSION กลายเป็นคำยอดฮิต ที่สมัยนี้ไม่ว่าไปพูดกับใครก็ดูจะรู้จัก และเหมือนว่าจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการใช้ชีวิต หลายคนแสวงหาแพสชันด้วยการคิดไปเรื่อย ๆ หลายคนยังไม่ยอมเริ่มทำงานจริงจัง เพราะรอหาแพสชันของตัวให้เจอเสียก่อน หรือหลายคนลาออกจากงานเพราะบอกว่าตนเองนั้นหมดแพสชัน

SDGs อาชีพแห่งอนาคต

SDGs อาชีพแห่งอนาคต

จากสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในมนุษยชาติ ทุกคน ทุกวงการได้รับผลกระทบ เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจเสียหายอย่างประเมินค่ามิได้ วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปจนชนิดไม่มีใครนึกถึง

หนาวใจ ห่มใจ

หนาวใจ ห่มใจ

บ้านเราเข้าสู่ ฤดูหนาวอย่างเต็มตัวแล้ว หลายพื้นที่อุณหภูมิลดต่ำลงมาก มากจนสมใจคนเมืองร้อนอย่างเราที่เฝ้าถวิลหาความเย็น โดยเฉพาะในปีนี้ ที่อย่างไรเราก็ต้องพยายามมีความสุขกันในบ้านให้ได้ เพราะจะหนีออกไปเล่นหิมะที่ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป หรืออเมริกา หนีร้อนแบบเดิมไม่ได้เสียแล้ว

วิถีปกติใหม่ (แท้)

วิถีปกติใหม่ (แท้)

วันผ่านเดือนผ่านและใกล้จะปีผ่านแต่โควิดยังไม่ผ่านจากเราไปเสียที… เพียงแต่เพราะเราจะเริ่มรู้จักมันมากขึ้นจนพอจะสามารถปรับตัวให้อยู่กับมันได้ดีขึ้น มันจึงไม่สามารถทำร้ายเรารุนแรงได้มากเท่ากับเมื่อเข้ามาเยี่ยมเยียนกันใหม่ ๆ การใช้ชีวิตแม้ยังไม่ปกตินักแต่ก็ไม่ลำบากเท่ากับ 6-7 เดือนก่อน ที่อยู่ดี ๆ วิถีการใช้ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงไปเกือบสิ้นเชิง จากที่เคยต้องรีบตื่นเช้า แหวกการจราจรอันติดขัดไปทำงาน กลับเป็นการ Work from

“การศึกษา” VS “ทฤษฎี”

“การศึกษา” VS “ทฤษฎี”

ทฤษฎี หรือ Theory ที่เหมือนเรื่องไกลตัว แท้จริงแล้วใกล้ตัวเราอย่างยิ่ง เกือบทุกสิ่งที่เราเกี่ยวข้องล้วนต้องอาศัยทฤษฎีไม่ว่าเพื่อการนำไปใช้ผลิตสินค้าออกมาขาย เพื่อการออกแบบระบบบริหาร หรือแม้แต่เพื่อหาวิธีในการดูแลลูกหลานของเราเอง