เปิดรับสมัครแล้ว! โครงการ “จุฬาฯ ชนบท” มอบทุนเรียนฟรีตลอดการศึกษาให้นักเรียนยากจนในชนบท เข้าถึงการศึกษาขั้นสูงในหลายคณะที่สนใจ หวังให้บัณฑิตพัฒนาชีวิตและภูมิลำเนา เริ่มสมัคร 14-23 กุมภาพันธ์นี้ ผ่านระบบ TCAS
สำหรับเด็กต่างจังหวัดฐานะยากจนคนหนึ่งกับชีวิตที่ต้องปั่นสามล้อบ้าง รับจ้างปั้นอิฐบ้าง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวและส่งตัวเองเรียนหนังสือ ความฝันที่จะเรียนในระดับอุดมศึกษาเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า ดูจะริบหรี่และห่างไกล จะเอาเงินจากไหนเป็นค่าเล่าเรียน อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลความเป็นอยู่
จนเมื่อได้รับข่าวโครงการ “จุฬาฯ-ชนบท” นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ไม่ลังเลที่จะคว้าโอกาส ด้วยผลการเรียนในระดับดีและครอบครัวขาดทุนทรัพย์ ตามเกณฑ์ที่จะได้รับทุน นายชัยวัฒน์ ได้เข้าเรียนในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ที่ทำให้หลายปีต่อมา สังคมได้รู้จัก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ทำคุณประโยชน์ เป็นแบบอย่างและเป็นที่รักของประชาชนในจังหวัดที่ท่านมีวาระไปรับใช้ในฐานะ “พ่อเมือง” ปัจจุบัน ศิษย์เก่าโครงการ “จุฬาฯ-ชนบท” ผู้นี้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
ศิษย์เก่าโครงการจุฬาฯ-ชนบท
“ภูมิใจทุกครั้งเมื่อได้เห็นพี่เก่า ๆ จากโครการจุฬาฯ-ชนบท เล่าเรื่องราวชีวิตและความสำเร็จในหน้าที่การงานให้ฟัง ถือว่ามหาวิทยาลัยของเราได้สร้างคนที่มีความรู้และมีคุณภาพ ที่สร้างผลกระทบที่ดีให้กับสังคม” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เรืองวิทย์ บรรจงรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์จุฬา-ชนบท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว พร้อมเสริมว่าศิษย์เก่าของโครงการจุฬาฯ-ชนบท จำนวนมากมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมหลากหลายด้าน ทั้งการแพทย์ สาธารณสุข อาจารย์ นักการสื่อสาร นักธุรกิจ ฯลฯ

ผู้อำนวยการศูนย์จุฬา-ชนบท
“หลายคนเป็นผู้บริหารระดับประเทศ เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หลายคนกลับภูมิลำเนาของตนเอง ช่วยเหลือชาวบ้านและเกษตรกร”
ด้วยความตั้งใจที่จะเปิดโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนที่เรียนดี แต่ยากจนในพื้นที่ชนบท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ก่อตั้ง “ศูนย์จุฬาชนบท” ขึ้น และเริ่มเปิดรับนักเรียนจากชนบทเพื่อมาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่จุฬาฯ รุ่นแรกในปี 2525 จนปัจจุบัน มีนักเรียนที่ได้รับโอกาสนี้และจบการศึกษาในฐานะบัณฑิตจุฬาฯ แล้วทั้งสิ้น 2,328 คน (ข้อมูล ณ ปีการศึกษา 2565)
สำหรับปีการศึกษา 2566 นี้ โครงการจุฬาฯ-ชนบท จะเปิดรับสมัครนักเรียนรุ่นที่ 40 เพื่อรับทุนนี้ ระหว่างวันที่ 14 – 23 กุมภาพันธ์ 2566 ผ่าน ระบบการรับสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาระดับปริญญาตรี (TCAS) ใน รอบที่ 2 (Quota)
ทุนโครงการจุฬาฯ-ชนบท 3 รูปแบบ
ทุนการศึกษาในโครงการจุฬาฯ-ชนบท เป็นทุนที่เปิดกว้างให้นักเรียนจากต่างจังหวัด ได้เลือกเรียนในคณะที่ตนเองสนใจและมีความถนัด โดยทุนในโครงการจุฬาฯ-ชนบท มีด้วยกัน 3 แบบ ดังต่อไปนี้
1. โครงการจุฬาฯ-ชนบท (โครงการรับนักเรียนจากชนบทเข้าศึกษาในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
เปิดรับ 161 ทุน โดยมีคณะที่เข้าร่วมโครงการ 16 คณะ (จากทั้งหมด 19 คณะ) ได้แก่
- คณะวิศวกรรมศาสตร์
- คณะอักษรศาสตร์
- คณะวิทยาศาสตร์
- คณะรัฐศาสตร์
- คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
- คณะครุศาสตร์
- คณะนิเทศศาสตร์
- คณะเศรษฐศาสตร์
- คณะสัตวแพทยศาสตร์
- คณะทันตแพทยศาสตร์
- คณะเภสัชศาสตร์
- คณะนิติศาสตร์
- คณะสหเวชศาสตร์
- คณะจิตวิทยา
- คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
- สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร
(สำหรับคณะที่ไม่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เนื่องจากคณะเหล่านี้มีโครงการให้ทุนการศึกษาของคณะเองจำนวนมากอยู่แล้ว)
**รายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ อ่านได้จากประกาศรับสมัคร โครงการจุฬาฯ-ชนบท
2. โครงการจุฬาฯ-ชนบท โรงเรียนปอเนาะพิเศษฯ
เป็นโครงการที่รับนักเรียนจากโรงเรียนปอเนาะพิเศษในโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในปีการศึกษา 2566 เปิดรับสมัครด้วยกัน 2 คณะ รวม 9 ทุนการศึกษา ได้แก่
- คณะครุศาสตร์ (สาขาวิชาประถมศึกษา)
- คณะรัฐศาสตร์ (สาขาวิชาการปกครอง และ สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา)
**รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ อ่านได้จากประกาศรับสมัคร โครงการจุฬาฯ-ชนบท โรงเรียนปอเนาะพิเศษฯ
3. โครงการจุฬาฯ-ชนบท (โครงการสืบสานปณิธานสมเด็จย่าทันตแพทย์จุฬาฯ-ชนบท โดยความเห็นชอบจากกระทรวงสาธารณสุข)
เป็นโครงการพิเศษที่เน้นการรับนักเรียนในพื้นที่ที่ขาดแคลนทันตแพทย์โดยเฉพาะ (โดยมีเงื่อนไขการรับที่แตกต่างจากทุนคณะทันตแพทย์ของจุฬาฯ-ชนบท โครงการที่ 1) ดังนั้น นักเรียนต้องติดตามว่าในแต่ละปีการศึกษา โครงการนี้จะเปิดรับที่จังหวัดใด และจะต้องเป็นนักเรียนที่อาศัยอยู่ในภูมิลำเนานั้น เนื่องจากเมื่อเรียนจบจะต้องกลับไปปฏิบัติงานในเขตพื้นที่ทีกำหนด เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนทันตแพทย์ในพื้นที่นั่นเอง
สำหรับปีการศึกษา 2566 นี้ จะเปิดรับนักเรียนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดตาก นครพนม สุรินทร์ ศรีสะเกษ และเชียงใหม่
**รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ อ่านได้จากประกาศรับสมัคร โครงการจุฬาฯ-ชนบท โครงการสืบสานปณิธานสมเด็จย่าทันตแพทย์จุฬาฯ-ชนบท
คุณสมบัติและขั้นตอนการสมัคร
ฐานะของผู้ปกครองเป็นเรื่องหลักในการพิจารณา อ.เรืองวิทย์ กล่าว นอกจากนั้น นักเรียนต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดตามเงื่อนไขของแต่ละโครงการด้วย
สำหรับขั้นตอนการคัดเลือกนักเรียนที่จะได้รับทุน มีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คัดเลือกจากเกณฑ์คะแนน โดยศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาฯ
ผู้สมัครจะต้องทำการสอบ TGAT TPAT หรือ A-Level ซึ่งจัดสอบโดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ตามแต่ที่คณะกำหนดไว้ โดยเกณฑ์ของแต่ละคณะก็จะแตกต่างกันไป ดังนั้นผู้สมัครจะต้องเข้าไปอ่านประกาศของคณะนั้น ๆ
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจเอกสาร
ผู้สมัครต้องยื่นเอกสารประกอบการสมัคร เช่น เอกสารการขอรับทุนจุฬาฯ-ชนบท หนังสือรับรองเงินเดือนของบิดา-มารดา เป็นต้น เพื่อให้ทางศูนย์จุฬาฯ-ชนบท ได้พิจารณาถึงความจำเป็นในการขอรับทุนการศึกษา โดยคัดเลือกจากฐานะของผู้ปกครองเป็นหลัก
ขั้นตอนที่ 3 ตรวจเยี่ยมบ้าน
เมื่อคะแนนผ่าน เอกสารต่าง ๆ ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว เจ้าหน้าที่จากศูนย์จุฬาฯ-ชนบทจะลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมบ้านผู้สมัครเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและจำเป็นในการรับทุน
ขั้นตอนที่ 4 คณะกรรมการพิจารณา
ข้อมูลทั้งหมดที่ได้ตรวจสอบจากทั้ง 3 ขั้นตอนข้างต้น จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการรับนักเรียนเพื่อพิจารณาร่วมกัน ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการชุดใหญ่ที่ท่านอธิการบดีแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกว่าใครเหมาะสมที่จะได้รับทุนจุฬาฯ-ชนบท เพื่อเข้าศึกษาในจุฬาฯ
ทุนจุฬาฯ-ชนบท ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
เมื่อเข้ามาเป็นนิสิตจุฬาฯ ผ่านโครงการจุฬาฯ-ชนบทแล้ว นิสิตจะได้รับการสนับสนุนทั้งการเรียนและความเป็นอยู่ จนกว่าจะสำเร็จการศึกษา ดังมีรายละเอียด ดังนี้
ค่าเล่าเรียน เต็มจำนวน
พักที่หอพักนิสิต จุฬาฯ (โดยไม่มีค่าใช้จ่าย)
ค่าหนังสือเรียน ประมาณ 1,500 บาทต่อเทอม
ค่าชุดนิสิต 1,000 บาทต่อเทอม
ค่าใช้จ่ายประจำเดือน 5,000 บาทต่อเดือน
เตรียมตัวให้พร้อม สมัครโครงการจุฬาฯ-ชนบท
อ.เรืองวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย ชักชวนน้อง ๆ นักเรียนมัธยมที่กำลังมองหาโอกาสทางการศึกษาเพื่อสานฝันชีวิตในอนาคตว่า “ทุกวันนี้ผมคิดว่าการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษานั้นง่ายกว่าสมัยรุ่นผมเยอะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องท้อ ไม่ต้องเสียใจเลยว่าจะไม่มีเงินเรียนต่อ ขอให้เตรียมตัวทางวิชาการให้พร้อม เรื่องอื่นไม่ต้องกังวล เรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ต้องกังวล เพราะจุฬาฯ-ชนบทจะช่วยสนับสนุนให้จนเรียนจบแน่นอน”