ด้วยตัวอย่างต้นแบบการเป็นวิศวกรโยธาจากคุณพ่อ ทำให้คุณอาจณรงค์เกิดแรงบันดาลใจที่จะเดินรอยตามด้วยการเลือกเรียนปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบไดตั้งใจทำงานในกลุม่ บริษัทกรีไทย บริษัทผูรั้บเหมาก่อสร้างอาคารในประเทศไทยควบคู่กับการดำรงตำแหน่งบริหารงานที่โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์
อาจณรงค์ เกตุวรวิทย์ วศ.30 กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทกรีไทย เรียนจบชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญกรุงเทพ จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหลังจากเรียนจบได้เข้าทำงานทันทีเนื่องจากคุณพ่อเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทกรีไทย และต่อมาท่านได้สัญญาเช่าพื้นที่บริเวณสยามสแควร์ จึงได้เริ่มดำเนินการธุรกิจโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์นี้ขึ้นมาใน พ.ศ. 2528 และคุณพ่อเป็นท่านแรกที่ได้ติดต่อ Accor ให้เข้ามาลงทุนทำธุรกิจโรงแรมในไทย และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมได้บริหารงานที่กลุ่มบริษัทกรีไทย และโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ ไปพร้อม ๆ กัน
โนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ โรงแรมที่อยู่บนโลเคชันที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ
โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ เป็นโรงแรม 4 ดาว ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ล้อมรอบไปด้วยแหล่งช็อปปิ้ง แหล่งบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอร์รี่ เซ็นทรัลเวิลด์ มาบุญครอง รวมทั้งเป็นพื้นที่ในการทำธุรกิจมากมาย โรงแรมอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามซึ่งเป็นสถานีที่เชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทกับสายสีลม รวมทั้งเชื่อมกับแอร์พอร์ตลิงค์และรถไฟใต้ดิน MRT ทำให้การเดินทางของลูกค้าสะดวกสบาย มีห้องพักให้บริการทั้งหมด 425 ห้อง แบ่งเป็น 7 ประเภท ได้แก่ ห้องซูพีเรีย ห้องดีลักซ์ ห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟ ห้องจูเนียร์สวีท ห้องสวีทขนาด 1 ห้องนอน ห้องสวีทขนาด 2 ห้องนอน และห้องสยามสวีท โดยทุกห้องประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและรูมเซอร์วิสที่พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง พร้อมบริการห้องอาหารทั้งอาหารนานาชาติและอาหารจีน บาร์ สปา สระว่ายนํ้าจากุซซี่ ฟิตเนส ห้องซาวน่า และห้องอบไอนํ้า ให้บริการแก่ลูกค้า
นอกจากนี้ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ ยังพร้อมให้บริการในการจัดงานประชุม สัมมนา หรือจัดงานอีเว้นท์ต่าง ๆ มีห้องประชุมทั้งหมด 7 ห้อง สามารถรองรับการประชุมได้สูงสุดถึง 400 ท่าน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมขนาดเล็กหรือกระทั่งการจัดสัมมนาขนาดใหญ่ นอกจากนี้เรายังมีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำตลอดการจัดประชุมที่โรงแรม
ปัจจุบันกลุ่มของบริษัทเราดำเนินธุรกิจอยู่ 3 โรงแรม คือโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ โรงแรมริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพ และโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สุวรรณภูมิ ซึ่งที่นี่เราจะทำในส่วนของการบริหารงานเพราะโรงแรมเป็นของท่าอากาศยานไทย
เป้าหมายการทำธุรกิจให้เติบโตและประสบความสำเร็จ
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจโรงแรมสามารถเติบโตได้นั้นต้องให้ความสำคัญกับ 3 เรื่อง คือ ลูกค้า ต้นทุน และทีมงาน
โรงแรมเราโชคดีมากสำหรับเรื่องโลเคชัน เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นโลเคชันที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ จึงทำให้โรงแรมเรากลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของลูกค้า และสิ่งที่เราต้องทำคือปรับปรุงโรงแรมให้มีความสวยงาม ทันสมัย ได้มาตรฐานและเนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นทรัพย์สินของจุฬาฯ ซึ่งทางทรัพย์สินจุฬาฯ ได้มีการปรับภาพลักษณ์ของสยามสแควร์ให้มีความทันสมัยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทยหลังโควิด-19 ที่ผ่านมา เราจึงมีแผนในการปรับปรุงโรงแรมที่มีอายุเกือบ 40 ปี ให้กลายเป็นโรงแรมที่ทันสมัยสอดคล้องกับนโยบายของทรัพย์สินจุฬาฯ เช่นกัน
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ในส่วนของโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ ได้รับผลกระทบตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ทางโรงแรมจึงได้ปรับเปลี่ยนบริการให้อยู่ในรูปแบบ Hospital Service ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลพญาไท 3 และโรงพยาบาลนวเวช เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มสีเขียว
และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ทางโรงแรมได้รีโนเวทห้องพักโดยใช้วิธีค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้ปิดให้บริการแต่จะใช้ช่วง Low Season เร่งการรีโนเวทห้องพัก และเมื่อเข้าสู่ช่วง High Season ที่มีลูกค้าเข้าพักเราจะชะลอการรีโนเวทออกไปก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนมากของโรงแรมเราจะเป็นประเทศสิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อเมริกา ยุโรปตะวันออกกลาง ตามลำดับ
การบริหารงานในกลุ่มบริษัทกรีไทย
กลุ่มบริษัทกรีไทย ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2518 ดำ เนินธุรกิจก่อสร้างอาคารในไทย เน้นรับงานหน่วยงานเอกชนเป็นส่วนใหญ่ รับหน้าที่ดูแลทั้งในเรื่องการบริหาร งานนโยบายของบริษัท และร่วมกับทีมงานดูแลในด้านเทคนิค รวมทั้งคิดค้นเทคนิคงานก่อสร้างให้แก่โครงการของลูกค้า
ในส่วนของงานเทคนิคที่ผมดูแล ขอยกตัวอย่างการรับงานในกลุ่มของ CPN ซึ่งเป็นการสร้าง Budget Hotel เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่มีชื่อว่า “Go! Hotel” ซึ่งเราได้เข้าไปร่วมปรับ Construction Method เพื่อทำให้การก่อสร้างมีความรวดเร็ว ลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดความเสี่ยงในการบริหารงานของโครงการ ซึ่งเป้าหมายของ “Go! Hotel” มีแผนเปิดโรงแรม50 แหง่ ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยทุกๆ จังหวัดให้อยู่ในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน
ข้อดีของการปรับ Construction Method ในครั้งนี้ทำให้ลดความเสี่ยงในการบริหารงานแต่ละโครงการได้ เพราะความสามารถของทีมงานในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกัน ทำให้ผลงานที่ออกมานั้นมีความแตกต่างตามไปด้วย หากใช้ Construction Method เข้ามามีส่วนร่วมในการก่อสร้างจะช่วยลดปัญหาในส่วนนี้ได้ ทำให้เจ้าของงานค่อนข้างมีความเชื่อมั่นว่าไม่ต้องพึ่งพาทักษะและกำลังคน เพราะฉะนั้นความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในโลเคชันต่างๆ จะน้อยลงมากๆ ทำให้ความคาดหวังว่ามาตรฐานของตึกที่สร้างในกรุงเทพฯ และในแต่ละจังหวัดจะได้ตึกที่มีมาตรฐาน สวยงาม รวมทั้งความเรียบร้อยของงานออกมาใกล้เคียงกันทุกตึก
นอกจากนี้เรายังร่วมคิดและพัฒนาเทคนิคต่างๆ ร่วมกับทีมงานในการก่อสร้างให้เหมาะสมกับงานแต่ละโครงการของลูกค้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี และสามารถลดต้นทุนให้แก่ลูกค้า และลด Waste ที่จะเกิดขึ้นในช่วงก่อสร้างได้
ในช่วง พ.ศ. 2540 กลุ่มบริษัทกรีไทยได้ Scale Down ลงมาและรับงานน้อยลงเหลือเพียง 20% และลดทีมงานลงเหลือเพียง 20% เท่านั้น แต่เราโชคดีที่มีทีมงานเก่าที่อยู่ด้วยกันมา และสามารถปรับตัวกับนโยบายที่ทางบริษัทเรามีให้รวมทั้งเรายังอาศัยเทคนิคและเทคโนโลยีที่มีเข้ามามากขึ้น จึงทำใหบ้ ริษัทเราสามารถที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปได้
กลุ่มบริษัทกรีไทยมีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโครงการทุกประเภท และเพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงมีความประสงค์เปิดรับสมัครบุคลากรที่มีความสามารถ ต้องการความท้าทาย ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะก้าวไปพร้อมกับองค์กร
นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยลดต้นทุนงานก่อสร้างในอนาคต
ถ้าจะข้าม Generation ถัดไปของวิธีการก่อสร้าง หากย้อนกลับมาในช่วงที่ผมเรียนจบจะมีการเขียนแบบด้วยมือ ช่วงนั้นเป็นช่วงแรกที่มีการใช้ AutoCAD ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้บุคลากรมีการปรับตัวค่อนข้างยาก และโต๊ะเขียนแบบคนก็ค่อย ๆ เลิกใช้ไปในที่สุด ปัจจุบันที่ใช้กันอยู่คือโปรแกรม BIM ซึ่งบุคลากรตลาด และตัวโปรแกรมยังไม่มาถึงในจุดที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง บริษัทเราเองก็ตั้งแผนก BIM ขึ้นมาแต่ไม่ค่อยมีความ Active เท่าที่ควร เนื่องจากไม่สามารถนำโปรแกรมมาใช้งานจริงได้ และผมเชื่อว่าสิ่งที่จะมาเปลี่ยนวิธีการก่อสร้างของ Generation ถัดไป คือ 3D Printing ซึ่งสามารถนำมาใช้งานร่วมกับเครื่องมือสมัยใหม่ในอนาคตในรูปแบบการทำงานแบบ Automatic ได้
หากนวัตกรรมเหล่านี้พร้อมแล้ว เชื่อว่าวิธีการก่อสร้างจะเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นอนาคตที่ไม่ไกล และเราต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของโปรแกรม BIM และอัปเดตตัวเองเรื่อย ๆ รอจนเทคโนโลยีมาถึงและนำมา Plug in ร่วมกันก็สามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้กับเทคโนโลยีเหล่านี้
จุดเริ่มต้นของการเข้าดำรงตำแหน่งอนุกรรมการ สวจ.
รู้สึกภูมิใจมากที่ท่านนายกสมาคมฯ ได้ให้โอกาสผมได้ร่วมทำงานในตำแหน่งอนุกรรมการนี้ในรุ่นวศ.30 เพื่อนผมคนหนึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการและเห็นว่าในคณะกรรมการมี วศ. อยู่หลายรุ่นและเป็น Vision ของท่านนายกสมาคมฯ เห็นว่าควรมีหลาย ๆ รุ่น เพื่อใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มีช่วยงานสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ ผมจึงมีโอกาสได้เข้ามาช่วยงานที่ สวจ. ในครั้งนี้
สิ่งที่อยากฝากถึงน้อง ๆ ชาวอินทาเนีย
ในรุ่นที่ผมเรียน สิ่งหนึ่งที่ทางคณะและรุ่นพี่ได้ปลูกฝังไว้คือเรื่องของระบบโซตัส การรักในมหาวิทยาลัย รักในคณะ การให้ความเคารพแก่รุ่นพี่ และรักในรุ่นน้อง อยากฝากสิ่งเหล่านี้ให้แก่รุ่นน้อง ๆ ให้สืบทอดกันไป รวมถึงในเรื่องของการทำธุรกิจ รุ่นน้องๆ ค่อนข้างจะ Short Cut เร็วเกินไป เพราะมีความคิดที่ก้าวหน้า รวมทั้งมีความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยี และความรู้รอบตัวที่ค่อนข้างมาก แต่ความรู้บางอย่างจะเกิดจากประสบการณ์ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาและการลงมือทำ ค่อย ๆ สะสมไป อยากให้น้อง ๆ มีความอดทนในเรื่องของเวลาในการสะสมประสบการณ์ ซึ่งในยุคนี้ไม่ต้องใช้ระยะเวลานานเหมือนรุ่นพี่ที่ผ่านมา แต่ก็ยังต้องใช้ระยะเวลาอยู่ จึงอยากฝากเรื่องนี้ให้แก่น้อง ๆ รุ่นใหม่ด้วยครับ
ที่มา: อินทาเนีย ฉบับที่ 4 ปี พ.ศ. 2565 คอลัมน์ สัมภาษณ์พิเศษ โดย กองบรรณาธิการ