จากสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในมนุษยชาติ ทุกคน ทุกวงการได้รับผลกระทบ เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจเสียหายอย่างประเมินค่ามิได้ วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปจนชนิดไม่มีใครนึกถึง
แต่ในอีกด้าน วิกฤตการณ์ในครั้งนี้ได้ทำให้เห็นถึงภูมิต้านทานของสินค้าและบริการที่ตอบสนอง ‘ความต้องการแท้’ ว่ามีมากกว่าสินค้าหรือบริการที่มุ่งขายความต้องการเทียมเป็นอย่างมาก เพราะความต้องการเทียมนอกจากต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการกระตุ้นตลาดและสร้างค่านิยมแฝงแล้ว ในยามที่เกิดวิกฤติใหญ่ธุรกิจประเภทนี้ยังเป็นธุรกิจแรก ๆ ที่ล้ม เพราะกำลังซื้อของลูกค้าไม่เพียงพอที่จะมาใช้กับสินค้าฟุ่มเพือยที่ยังไม่จำเป็น ดังนั้น การทำธุรกิจยุคใหม่จึงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความต้องการแท้ หรือการแก้ปัญหาให้กับสังคมเป็นหลัก โดยเฉพาะปัญหาระดับโลกที่เรียกว่า SDGs
สำหรับพวกเราชาววิศวฯ ลูกหลานพระวิษณุกรรม เทพผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างเครื่องมือและสร้างสิ่งของต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น จึงอยากชวนคิดต่อว่า แล้วในวิกฤตเช่นนี้ เราจะสร้างงาน สร้างอาชีพที่ช่วยแก้ปัญหาสังคม แก้ปัญหาโลก ซึ่งเป็นความต้องการแท้ได้อย่างไรบ้าง เพราะนี่ไม่เพียงเป็นโอกาสรอด แต่ยังเป็นโอกาสทองทางธุรกิจที่นอกจากจะสามารถสร้างความมั่นคงแล้ว ยังช่วยสร้างสรรค์สังคมให้รอดพ้นจากปัญหาด้วย อีกทั้งเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย กลุ่มประเภทธุรกิจเหล่านี้จะยิ่งกลายเป็นดาวเด่นที่สามารถขยายตลาดได้ง่าย เพราะนี่คือ Mega Trend กระแสหลักของโลกธุรกิจในปัจจุบัน
สำหรับ SDGs หรือ Sustainable Development Goals นั้นเป็นบทสรุปจากการสำรวจของสหประชาติถึงปัญหาที่ประเทศสมาชิกทั่วโลกประสบและต้องการให้แก้ไข มีทั้งสิ้น 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเป้าหมายนี้กำเนิดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 2015 ประกอบไปด้วย 169 เป้าหมายย่อย (SDG Targets) ที่มีความเป็นสากล เชื่อมโยงและเกื้อหนุนกัน และกำหนดให้มี 247 ตัวชี้วัด เพื่อใช้ติดตามและประเมินความก้าวหน้าของการพัฒนา โดยสามารถจัดกลุ่ม SDGs ตามปัจจัยที่เชื่อมโยงกันใน 5 มิติ (5P) ได้แก่
- มนุษย์: มุ่งขจัดความยากจน การขาดอาหารและและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
- โลก: รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และรักษาสภาพภูมิอากาศให้เหมาะสม
- เศรษฐกิจ: ดูแลด้านคุณภาพชีวิต สุขอนามัย
- สันติภาพ: พัฒนาธรรมาภิบาล สร้างสังคมที่สงบสุข ไม่แบ่งแยก
- ความร่วมมือ: ให้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในทุกระดับ
โดยเป้าหมายทั้ง 17 เป้าหมาย ประกอบด้วย
- ขจัดความยากจน
- ยุติความหิวโหย
- สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
- จัดการศึกษาให้มีคุณภาพ
- สร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศ
- จัดการเรื่องคุณภาพของน้ำ
- ดำเนินการพลังงานสะอาด
- ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง
- สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม
- ลดความไม่เสมอภาคภายในประเทศและระหว่างประเทศ
- การจัดการเมือง
- สร้างหลักประกันการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
- ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรอย่างยั่งยืน
- ปกป้อง ฟื้นฟูระบบนิเวศบนบก
- ส่งเสริมสังคมที่สงบสุขและยุติธรรม
- เสริมความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลก
ซึ่งวางไว้ว่า ทุกประเทศต้องช่วยกันผลักดันให้แล้วเสร็จใน ค.ศ. 2030 เมื่อมองในมุมของการทำธุรกิจ หากใครที่สามารถนำงานของตนมาใช้ตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ก็จะได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลภายในไปจนถึงนักลงทุนระดับโลก ที่ปัจจุบันจะพิจารณาสนับสนุนองค์กรที่มีคะแนน SDGs Score เป็นบวก

SDGs จึงเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญของคนที่กำลังค้นหาเป้าหมายชีวิต ค้นหาอาชีพที่ทำแล้วประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยผู้ประกอบการที่มีธุรกิจอยู่แล้วให้เห็นช่องทางใหม่ ที่คนจำนวนมากมักนึกไม่ถึงในประเด็นปัญหาที่อยู่ใน 17 ข้อนั้นว่าเป็นปัญหาระดับโลก ทำให้ละเลยโอกาสงามนี้ไป จนเมื่อได้ศึกษาโดยเฉพาะลงลึกในรายละเอียดย่อยของแต่ละเป้าประสงค์ใน 17 ข้อ ซึ่งมีแยกย่อยไปอีกมากก็จะยิ่งทำให้เจองานที่ตนอยากทำและถนัดได้ง่ายขึ้น โดยสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://sdgs.un.org/goals (และขอเชิญชวนมาร่วมติดตามฟังแนวคิดดี ๆ ได้ในสโมสร Build Your Future ที่คลับเฮาส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้คนที่มีความรู้ ความสามารถ และทำด้าน SDGs ทั้งในและต่างประเทศมาแบ่งปันกันทุกวันจันทร์เวลา 15.00 น.)
SDGs ถูกมองว่า เป็นโอกาสทองของทั้งคนที่กำลังหาอาชีพ และองค์กรที่กำลังเริ่มทำธุรกิจหรือมองหาธุรกิจใหม่ ขณะเดียวกัน SDGs ก็เป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจที่ละเลยไม่สนใจ ดังนั้น เราจะจับ SDGs เพื่อสร้างธุรกิจช่วยแก้ปัญหาสังคมให้สมกับเป็นลูกพระวิศวกรรม หรือจะยอมให้ SDGs เข้ามา Disrupt อาชีพและธุรกิจของเรา ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองนะครับ
ที่มา: คอลัมน์ ข้อคิดจากนิสิตเก่า โดย ผศ. ดร.วีรณัฐ โรจนประภา วศ.28