บทกลอนประพันธ์โดย: ผศ. ดร.สมศักดิ์ ตันตาศนี วศ.2517
กาลต่อมาสาวกค่อยทยอยเพิ่ม
กล้าข้าวเริ่มปักชำนำเหตุเนื่อง
ฉัพพัคคีย์ย่ำยีข้าวกล้าชาวเมือง
จึงเกิดเรื่องร้องเรียนติเตียนมา
พุทธองค์ทรงทราบเรื่องความเคืองขัด
จึงทรงตรัสบัญญัติไว้ให้รักษา
ภิกษุเมื่อวสันตฤดูมา
จำพรรษามิพักค้างต่างอาราม
เดือนแปดแรมหนึ่งค่ำเริ่มพำนัก
จันทรจักรคล้อยเคลื่อนเดือนที่สาม
เดือนสิบเอ็ดสิบห้าค่ำอำไพงาม
จึงครบตามพรรษาครองครรลองควร
แต่หากพลาดมิอาจรุดสุดวิสัย
ระยะทางห่างไกลแม้ไปด่วน
หรืออาพาธมิอาจไปพิษไข้กวน
อาจทบทวนพรรษาเนิ่นเกินหนึ่งเดือน
ระหว่างวันพรรษาอาจจาริก
หากสหธรรมิกภิกษุเพื่อน
บุพการีนี้ป๋วยไข้กลับไปเยือน
เร่งรั้งเตือนสหธรรมิกสิกขารอน
กิจของสงฆ์ธำรงไว้ได้รับมอบ
นิมนต์ชอบพระองค์ทรงผันผ่อน
แลบัญญัติอนุญาตสามารถจร
แต่กลับก่อนเจ็ดวันให้ทันกาล
ที่กล่าวไว้ไม่พลาดขาดพรรษา
เพิ่มต่อมาหากถูกขืนคืนถิ่นฐาน
สัตว์งูคนปล้นทำร้ายหมายต้านทาน
หรือชาวบ้านย้ายนิวาสนิราศเรือน
หรือภูติผีปีศาจร้ายหมายสิงสู่
หรือที่อยู่ไฟไหม้จำใจเคลื่อน
หรือน้ำท่วมหลากถึงพึงกระเทือน
มิอาจเยือนอารามตามตั้งใจ
ถือว่าพลาดขาดพรรษาไม่อาบัติ
อาวาสวัดอยู่สามเดือนมิเคลื่อนไหว
เช่นดั่งนกมิผกผินหากินไกล
ยังผลให้ข้อร้องหายคลายขัดเคือง