สับฟันเฟือง

ได้ยินเสียงแว่ว ๆ มาจากห้องประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เหตุใดถึงพูดกันมากว่าประเทศไทยแพ้เวียดนามในด้านการพัฒนาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ?

เจาะกันให้ลึกจริง ๆ ก็คงมีหลายสาเหตุครับ แต่ผมอยากชวนพวกเรามาดูดัชนีนวัตกรรมของประเทศที่น่าจะเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศหนึ่ง ๆ ได้เป็นอย่างดี

เพราะการลงทุนในการวิจัยพัฒนาคือการสร้างองค์ความรู้ ในขณะที่การทำนวัตกรรมคือการเอาองค์ความรู้ที่ได้มาทำมาหากินสร้างรายได้ โดยทำเป็นสินค้าและ/หรือบริการต่าง ๆ ที่แข่งขันได้ในตลาด

สำนักข่าวสาร Bloomberg ที่ทรงอิทธิพลด้านข่าวเศรษฐกิจประกาศดัชนีนวัตกรรมใน ค.ศ. 2021 ตามภาพที่ผมยกมานี่แหละครับ ในฐานะคนเอเชียก็ต้องภูมิใจที่เกาหลีใต้เป็นอันดับหนึ่งของโลกด้านนวัตกรรม และในฐานะคนอาเซียนก็ต้องภูมิใจที่สิงคโปร์ติดอันดับสองครับ

ประเทศไทยที่รักของเราติดอันดับที่ 36 ในขณะที่เวียดนามติดอันดับที่ 55……..แปลว่าตามดัชนีของ Bloomberg เราไม่แพ้ครับ!!

แต่ช้าก่อน….. ลองดูดัชนีนวัตกรรมระดับโลกหรือ Global Innovation Index – GII ที่จัดอันดับโดยองค์กรทรัพย์สินทางปัญญาโลก หรือ World Intellectual Property (WIPO) ซึ่งถือได้ว่าเป็นทางการมากกว่าของ Bloomberg นะครับ ขณะที่ผมเขียนบันทึกอยู่นี้มีข้อมูลออกมาล่าสุดคือ ค.ศ. 2020 ครับ

ไทยอยู่อันดับที่ 44 ในขณะที่เวียดนามอยู่ที่ 42 ……ไม่เท่าไหร่ใช่ไหมครับ?… 2 อันดับเท่านั้นเอง

แต่ถ้าพี่น้องชาวอินทาเนียขุดต่อลงไปอีกหน่อยจะพบข้อมูล Innovation Input หรือปัจจัยป้อนเข้าในการสร้างนวัตกรรม และ Innovation Output หรือนวัตกรรมที่เป็นผลลัพธ์จากปัจจัยป้อนเข้านั้น ๆ ข้อมูลสองตัวนี้น่าสนใจมาก ๆ ครับ

หมายความว่าหาก Innovation Input อยู่อันดับที่ต่ำ แต่ได้ Innovation Output ในอันดับที่สูงแล้ว แปลว่าประเทศนั้นแน่มาก ๆ ครับ

ลองดูข้อมูล 3 ปีย้อนหลังกันครับ

คราวนี้ได้คำตอบไหมครับว่า ไทยแพ้เวียดนามจริงไหม?
ในขณะที่ปัจจัยป้อนเข้าเขาอยู่อันดับต่ำกว่าเรามาก แต่ผลลัพธ์นวัตกรรมกลับเหนือกว่าเราเยอะครับพี่น้อง!!!