40 ปี บี ปิโตรไทย

40 ปี บี ปิโตรไทย… การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างก้าวกระโดด


เราทุกคนคงยอมรับว่าโลกในช่วงเวลาที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด การปฏิวัติด้านการสื่อสารทำให้การพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีรวดเร็ว และมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่เทคโนโลยีที่เพิ่งถูกพัฒนาได้แบบไม่ทันตั้งตัว

กองบรรณาธิการอินทาเนีย มีโอกาสเข้าร่วมพูดคุยกับ กิจจา จำนงค์อาษา วศ.10 ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย และ อาริยทัศน์ ศุทธชัย ประธานผู้บริหาร กลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย เกี่ยวกับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกแบบก้าวกระโดด รวมทั้งเหตุผลของการเข้าร่วมกับโครงการต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ Private Sector Collective Action Against Corruption (CAC) ของกลุ่มบริษัท

ปรับเปลี่ยนการบริหารองค์กร
เพื่อต่อกรกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

กิจจา จำนงค์อาษา
กิจจา จำนงค์อาษา วศ.10 ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย

คุณกิจจา: ต้องบอกว่าวันนี้ที่อยากจะเล่าให้ฟัง ขอให้มองเรื่องของกลุ่มบริษัทนี้เป็นงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีประโยชน์แก่ผู้อ่านได้บ้าง

40 ปีของกลุ่ม บี ปิโตรไทย กับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างก้าวกระโดด ก่อนอื่นต้องเรียนว่า ผมอยู่ในฐานะของผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย ซึ่งวันนี้ผมอายุ 72 ปีแล้ว ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของทีมงานคนรุ่นใหม่ นำโดย คุณอาริยทัศน์ ประธานผู้บริหาร (CEO) ของกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย ซึ่งประกอบด้วย 5 บริษัท ที่มีภารกิจแตกต่างกัน แต่มีความเกี่ยวข้อง สามารถเชื่อมโยง และเกื้อกูลซึ่งกันและกัน (ECO System) ในการดำเนินธุรกิจ จัดหา จัดจำหน่าย และให้บริการเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางวิศวกรรมสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของไทยได้อย่างครบวงจร นับตั้งแต่วันแรกที่ก๊าซธรรมชาติไหล (Free Flow) ขึ้นฝั่งที่ระยอง จวบจนถึงปัจจุบัน

บี ปิโตรไทย สะสมองค์ความรู้ตลอด 40 ปี เพื่อให้คนรุ่นใหม่ก้าวสู่โลกอนาคต

สิ่งสำคัญคือเรามีคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพกว่า 50 คน มีทรัพย์สินทางปัญญาที่เก็บสะสมนับจากวันแรกของการดำเนินธุรกิจ มีการพัฒนาการจัดเก็บ และการบริหารข้อมูล (Information Plant) อย่างต่อเนื่องตามเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีการสะสมเงินทุนสำรองที่พอเพียงต่อการดำเนินธุรกิจบนพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 20 ปี ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่โลกธุรกิจในอนาคต

บี ปิโตรไทย

ซึ่งตลอดเวลา 40 ปี ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท เราได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างมีเป้าหมายชัดเจน ดังนี้

  1. ลูกค้าต้องได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลงานของกลุ่มบริษัท
  2. กลุ่มบริษัทได้พัฒนาศักยภาพพนักงานและองค์กร ให้สามารถรองรับการถ่ายทอดความรู้จากเจ้าของเทคโนโลยีระดับโลก ตลอดจนนำมาพัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อความสำเร็จของผลงานในทุกสัญญา (Successful Contract) กับลูกค้า โดยมุ่งมั่นที่จะเป็น Global Technology, Local Strength กล่าวคือ สามารถเชื่อมโยงเทคโนโลยีระดับโลกมาทำให้เกิดผลสัมฤทธิได้ด้วยความสามารถของคนไทย
  3. นับจาก ค.ศ. 1995 ได้มีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ (Reengineering) ในส่วนของผู้ถือหุ้น เพื่อเป็น Employee Company และปรับเปลี่ยนการบริหารองค์กรจากแบบ Conventional มาเป็นแบบ Flat Organization หมายถึง ทุกคนในองค์กรเป็นเจ้าของ Process ในแต่ละ Business Units ที่เชื่อมโยงกันตาม Business Model ที่ถูกออกแบบไว้

BE Petrothai

ในปัจจุบัน กลุ่มบริษัทมีคณะกรรมการบริหาร 3 คณะ ทำหน้าที่ถ่ายทอดปรัชญา กำหนดภารกิจและนโยบาย เพื่อดูแลชุมชน บี ปิโตรไทย ใน 4 ด้าน

  1. คน
  2. การจัดการด้านการเงิน และการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
  3. การเฝ้าระวังเพื่อปรับ Business Model ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  4. การตรวจสอบโดยสถาบันด้านธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ เช่น CAC, TRACE ฯลฯ เพื่อเป็นการป้องกันผู้ถือหุ้นและชื่อเสียงของบริษัท ที่สะสมมาตลอดระยะเวลา 40 ปี

BE Petrothai

ผมอยากจะบอกว่า 40 ปี ที่สร้างกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทยมานั้น นี่คือผลทั้งหมด ซึ่งผมได้ส่งต่อให้คุณอาริยทัศน์ โดยหวังว่าทีมงานคนรุ่นใหม่จะสามารถต่อยอด สร้าง บี ปิโตรไทย ให้ยืนยาวไปได้อย่างน้อยอีก 20 ปี

“กิจจาเก่งมากในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้สมาชิกองค์กรพร้อมจะปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ทุกองค์กรมีเงื่อนไขหนึ่งถ้าขาดแล้ว Digital Transformation จะไม่มีวันเกิดอย่างเป็นระบบ คือ ผู้นำผู้มีอิทธิพลสูงสุดขององค์กรจะต้องมี Vision และเป็นผู้ให้การกระตุ้นและการสนับสนุนอย่างทุ่มเท แม้แต่การยอมลงทุน Resources ต่าง ๆ ซึ่งในเบื้องต้นจะไม่เห็นผลตอบแทนทางการเงิน ผู้บริหารส่วนที่หารายได้เริ่มจะกังวลว่าเงินสำรองที่สะสมมา ถูกใช้ในกิจการด้านการลงทุนเพื่อ Digital Transformation ก็จะหายไปหรือชะลอไป ซึ่งไม่ทันต่อ Speed ของการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน ของแสดงความชื่นชมต่อวิสัยทัศน์และความแน่วแน่ของคุณกิจจาครับ”

ดร.วรศักดิ์ กนกนุกูลชัย ราชบัณฑิต
ผู้อำนวยการ CU School of Integrated Innovation

Business Model เพื่อความสำเร็จกับการก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5

อาริยทัศน์ ศุทธชัย
อาริยทัศน์ ศุทธชัย ประธานผู้บริหารกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย

คุณอาริยทัศน์ ศุทธชัย CEO ประธานผู้บริหารของกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่ พ.ศ. 2561 ผมเริ่มเข้ามารับภารกิจ ในฐานะ CEO ของกลุ่มบริษัท ที่ต้องดูแล 5 บริษัทด้วยกัน เป็นงานที่ท้าทาย เพราะว่าทางผู้ก่อตั้งอยากจะส่งไม้ต่อและเพื่อให้กลุ่มบริษัทนั้นเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยการนำวิธีคิด ปรัชญา และวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งเข้ามาสู่การปฏิบัติสร้างธุรกิจเพื่อความยั่งยืนให้แก่ชุมชนของเรา

เราเป็นชุมชนของคนทำธุรกิจร่วมกัน 5 บริษัท ที่ใช้หลักการบริหารที่เน้นเรื่องการแบ่งปัน (Sharing) ทรัพยากรที่มี ทำกิจกรรมที่ถนัด และแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น (Resources, Activities & Benefits) ในกลุ่มบริษัทเราเองและคู่ค้า เพื่อความสำเร็จในทุก ๆ สัญญาที่ให้ไว้แก่ลูกค้า

เราทำงานร่วมกันแบบ Partnering คำพูดนี้ง่ายแต่ทำยากครับ เพราะต้องอาศัยความเข้าใจร่วมกัน ดีที่เรามีเครื่องมือช่วย คือการมองให้เป็นอะไรที่ง่าย เราเรียกว่า Business Model เรื่องทุกเรื่องเราจับทำ Model หมด ทำให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกัน แล้วสามารถนำความแข็งแรงของแต่ละคนมา นำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อเชื่อมโยงความสามารถของคู่ค้าและความต้องการของลูกค้า ที่มีเหตุปัจจัยและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ซึ่งเขาเองไม่สามารถทำอะไรได้มาก เราจึงต้องทำความเข้าใจและปรับในส่วนของเรา เพื่อความสำเร็จของงานเป็นสำคัญ (Successful Contract) เพราะผลสุดท้ายเราเชื่อว่า ผลประโยชน์โดยรวมจะได้กับสังคมและประเทศชาติ

สิ่งที่เรามองไปข้างหน้านั้น เรากำหนดตัวเองเป็น Adaptive Innovation Partner ให้แก่คู่ค้าและลูกค้าของเราเป็นสำคัญ โดยกำลังนำเสนอบริการใหม่ ๆ ให้ลูกค้า ที่เป็นมากกว่าการขายสินค้า บริการดังกล่าวเกิดมาจากประสบการณ์ที่สะสมมาตลอด 40 ปี นำมากลั่นกรอง ออกแบบ สร้างระบบจัดเก็บ โดยลงทุนสร้างเป็น Information Plant ที่รวบรวม Data ทั้งหมด แล้วนำระบบเข้ามาจัดการ สร้างให้เกิดเป็นองค์ความรู้ ในรูป E-library ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการส่งต่อความรู้ให้ทีมงานของเรา และ Data บางส่วนได้ถูกพัฒนาออกมาเป็น Application Software ใช้งานได้เลย ผมเชื่อว่าในขณะนี้เราสามารถทำงานอยู่บน BE Work Digital Platform ได้เกือบทั้งหมด

ในเรื่องที่คุณกิจจากล่าวถึง Flat Organization นั้น เป็นงานที่ท้าทาย เราสร้างคนให้มีความเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกันกับเรา สมาชิกชุมชนของเรากว่า 50 คน โดยแบ่งเป็น Operation, Operation Support, Support ซึ่งในฐานะ CEO ผมทำหน้าที่ Support ทั้งหมด เราไม่มีนายไม่มีลูกน้อง เรามีความเป็นนายตัวเอง มีธุรกิจของตัวเองที่ต้องดูแลตามความถนัด ทั้ง 5 บริษัทมี Managing Partner ที่ดูแลรับผิดชอบภาพรวมในบริษัทนั้น ๆ และในส่วนของการบริหาร เราตั้งเป็น Committee ขึ้นมาช่วยสนับสนุนและตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ๆ เช่น การเงิน การพัฒนาธุรกิจ อย่างไรก็ตาม Mechanism สำคัญที่มาช่วยรองรับการบริหารจัดการแบบนี้ คือ Information Plant ที่เราสร้างขึ้นมานั่นเอง

คุณกิจจา ได้ยกตัวอย่างประโยชน์ของ Information Plant เช่น พ.ศ. 2540 เราเคยเข้าไปซ่อมบำรุงและดูแลอุปกรณ์วาล์วให้แก่โรงกลั่นแห่งหนึ่ง เป็นสัญญา 6 ปี ผลสรุปสุดท้ายของสัญญาคือเราสามารถ Standardize คู่ค้าที่ Active ในตลาด และลดการจัดเก็บ Spare Parts จนเป็น Zero Inventory หรือในบางกรณีลูกค้ามีแผนปิดซ่อมบำรุงทั้ง Plant (Turn-around) จำเป็นต้องสั่งซื้อ Spare Parts ของอุปกรณ์วาล์วมาเตรียมไว้ตาม Maintenance Instruction Manual ของคู่ค้า ซึ่งเป็นเงินถึง 36 ล้านบาท แต่ด้วยระบบการจัดการข้อมูลและประสบการณ์ที่สะสมใน Information Plant ของเรา สามารถลดการจัดซื้อเหลือเพียง 9 ล้านบาท ในการซ่อมบำรุงครั้งนั้น ทั้งนี้ส่งผลถึงภาพใหญ่ คือช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ และสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติอีกด้วย

บี ปิโตรไทย

เข้าร่วมในโครงการ CAC เพื่อการทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 คณะกรรมการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต มีมติรับรองฐานะสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติฯ ให้แก่กลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย พร้อมกันทั้ง 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท ปิโตรไทย จำกัด บริษัท พีทีซี ปิโตรไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท อินทรายแอม จำกัด บริษัท บี คอนเซพท์ จำกัด และบริษัท บีอี คอนซัลติ้ง กรุ๊พ จำกัด นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของพนักงานและผู้บริหาร ที่ได้มีส่วนร่วมกันผลักดันและยึดมั่นในคุณธรรม เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและโปร่งใส ในการดำเนินกิจการมาตั้งแต่ก่อตั้ง และน่าจะเป็นกลุ่มบริษัทแรก ๆ ของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองสถานะครบทุกบริษัทในกลุ่ม

“เมื่อผมวางมือทางธุรกิจ ผมมั่นใจว่าได้ส่งต่อ กลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย ที่มีมาตรฐานสากลให้แก่ผู้บริหารรุ่นใหม่ คือ การได้รับการรับรองจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ Private Sector Collective Action against Corruption (CAC) ว่า กลุ่มบริษัททำธุรกิจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้”

คุณกิจจา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เริ่มเปิดบริษัทเราให้ความสำคัญกับระบบบัญชีและการเงินที่ต้องได้มาตรฐาน เมื่อคู่ค้าต่างประเทศได้ให้ TRACE International เข้ามาตรวจสอบเรื่องความโปร่งใสในการทำธุรกิจ ตั้งแต่ พ.ศ. 2552 และเราได้รับการรับรองทุกปีอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

“การเข้าร่วมโครงการ CAC ทำให้ผู้ก่อตั้งอย่างผมสามารถนอนหลับได้อย่างสนิท โดยหมดความกังวลใดๆ ”

บีปิโตรไทย รับการรับรองจากโครงการ CAC

“ผมขอปรบมือให้ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ CAC ซึ่งเป็นโครงการที่เอกชนร่วมกันมายืนในที่สว่างแสดงเจตนารมณ์ในการไม่ให้หรือรับสินบน เพื่อร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมธุรกิจที่ปลอดสินบน เพราะ SME ทำเรื่องนี้ยากกว่า ด้วยข้อกังวลว่าถ้าไม่จ่ายสินบนอาจจะเสียเปรียบคู่แข่ง ขอแสดงความชื่นชมกลุ่มบริษัท บีปิโตรไทย ที่มีจุดยืนชัดเจนและดำเนินการตามข้อกำหนดจนได้รับการรับรองจากโครงการ CAC ทั้ง 5 บริษัท”

กุลเวช เจนวัฒนวิทย์
CEO Thai Institute of Directors (IOD)

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า กลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ได้ เราได้เห็นมิติการบริหารธุรกิจที่ยากและท้าทาย แต่กลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ ซึ่งรูปแบบการบริหารนี้ตอบโจทย์ ก้าวทันและล้ำหน้า เมื่อเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน อย่างเช่น สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งไม่เคยมีใครคาดคิดว่า วิกฤตของโลกในครั้งนี้เป็นตัวเร่งให้เราต้องทำงานบนสภาวะ New Normal Platform

ดังนั้น ชาวอินทาเนียต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปรัชญาองค์กรที่ให้ความสำคัญกับบุคลากร การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ในการทำงาน การสร้างชุมชนที่แบ่งปันทรัพยากรที่มีกิจกรรมที่ถนัด และผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย ที่สำคัญคือเรื่องของการมุ่งมั่นเป็นบริษัทที่ดี อีกทั้งผู้บริหารให้ความสำคัญแก่การบริหารงานที่โปร่งใส ห่างไกลความทุจริต โดยเข้าร่วมโครงการ CAC เพื่อต่อต้านการคอร์รัปชันและมองเป็นหัวใจสำคัญในการที่จะดำเนินธุรกิจได้อย่างระยะยาว

ด้วยองค์ประกอบทั้งหลายนี้ จึงเชื่อมั่นว่ากลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย ที่ได้ดำเนินธุรกิจมาครบ 40 ปี แล้วจะก้าวย่างเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง เติบโตเป็นบริษัทคุณภาพที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่บริษัทอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save